ข้อมูลโครงการบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชธานี
          

โครงการบริการวิชาการมหาวิทยาลัยราชธานี
ชื่อโครงการบริการวิชาการ   ::    วัยรุ่นยุคใหม่ ไม่ติดเกม
ปีงบประมาณ   ::    2558
หัวหน้าโครงการบริการวิชาการ   ::    ระพีพรรณ ลาภา (62)
ผู้ร่วมโครงการ   ::    ดร.นิภาธร ไวท์วิทย์ริยะกุล
ดร.ศิริลักษณ์ ปัญญา
แหล่งเงินสนับสนุน   ::    ภายใน
งบประมาณโครงการ   ::    10600 บาท
บูรณาการกับการเรียนการสอน   ::      1) 822210 การพยาบาลสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช
บูรณาการกับงานวิจัย   ::   
ไฟล์เอกสารงานบริการ   ::   
รายละเอียดเพิ่มเติม   ::        สถานที่:โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคาร จ.อุดรธานี รายงานสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการบริการวิชาการ ชื่อโครงการ วัยรุ่นยุคใหม่ ไม่ติดเกม ผู้รับผิดชอบ คณาจารย์สาขาวิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช วันที่จัดกิจกรรม ๓ กันยายน ๒๕๕๘ และวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๘ สถานที่จัด โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคาร ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี การบรรลุวัตถุประสงค์ ๑. ได้ให้บริการวิชาการแก่สังคม แก่ชุมชน ๒. ครู และนักเรียน เกิดความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาเด็กติดเกมและผลกระทบจากปัญหาการติดเกมในวัยรุ่น ๓. ได้ทำการคัดกรองปัญหาเด็กติดเกมในเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวนทั้งสิ้น ๓๘๗ คน ๔. มีการบูรณาการกิจกรรมโครงการเข้ากับการเรียนการสอนวิชาปฏิบัติการสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวชในเรื่องการจัดกิจกรรมป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในชุมชน ๕. นักศึกษาเกิดจิตสำนึกด้านความเสียสละมีจิตสาธารณะ ๖. นักศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ในการประกอบวิชาชีพได้ในอนาคต ๗. นักศึกษามีการทำงานร่วมกันเป็นทีม และเกิดความสามัคคีในหมู่คณะ ผลที่ได้จากการดำเนินการ ๑. นักศึกษาได้รับประสบการณ์ในการฝึกปฏิบัติงานด้านส่งเสริมสุขาภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในชุมชนในรายวิชาปฏิบัติการสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช ๒. ครู และผู้บริหารสถานศึกษามีความตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการติดเกมของวัยรุ่นและได้ทราบถึงสถานการณ์เด็กติดเกมในสถานศึกษา ๓. นักเรียนได้ตระหนักถึงผลกระทบของการติดเกม และทราบแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการติดเกม วิธีการดำเนินการ(PDCA) ๑.ขั้นการวางแผน มีการสำรวจความต้องการให้บริการวิชาการแก่สังคม สรุปการสำรวจความต้องการและนำมาวางแผนการให้บริการวิชาการ แต่งตั้งคณะกรรมการบริการวิชาการ ๒.ขั้นดำเนินการ (DO) มีการดำเนินการดังนี้ ๒.๑ ประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการให้บริการ ๒.๒ ประสานงานกับพื้นที่ในการให้บริการ ๒.๓ ดำเนินการตามแผนที่วางไว้รวมทั้งการจัดกิจกรรม ๒.๔ ประเมินผลการดำเนินกิจกรรม ๓. ขั้นการประเมินผลมีการดำเนินการดังนี้ ๓.๑ ประชุมคณะกรรมกาที่เกี่ยวข้องเพื่อประชุมสรุปผลการดำเนินโครงการ ๓.๒ สรุปผลการประเมินโครงการและกิจกรรม และข้อสรุปความรู้ที่ได้รับและการนำผลการประเมินไปปรับปรุง ๔. ขั้นปรับปรุง ๔.๑ นำผลการประเมินรวมทั้งปัญหาและอุปสรรคไปปรับปรุงการดำเนินการให้บริการ ครั้งต่อไปหรือปีการศึกษาต่อไป การประเมินการให้บริการวิชาการครั้งที่ ๑ ที่โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคาร สรุปการดำเนินโครงการ ครั้งที่ ๑ วัตถุประสงค์ ๑.เพื่อให้บริการวิชาการแก่สังคม ๒. เพื่อบูรณาการงานบริการวิชาการแก่สังคมกับการเรียนการสอนและงานวิจัย ๓.เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างองค์กรภายนอกในการให้บริการวิชาการแก่สังคม ๔.เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน การให้บริการ ๑.ให้ความรู้เรื่องสถานเด็กติดเกม ผลกระทบ และแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กติดเกม ๒. ทำการคัดกรองปัญหาเด็กติดเกมให้แก่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ๓. จัดกิจกรรมนันทนาการให้แก่เด็กนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ผลการให้บริการ จากการจัดกิจกรรมโครงการโดยแบ่งจัดเป็นสองครั้ง มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นจำนวน ๓๘๗ คน เป็นชาย ๑๘๐ คน หญิง ๒o๗ คน จากการคัดกรองปัญหาเด็กติดเกมโดยใช้แบบทดสอบการติดเกมฉบับเด็กและวัยรุ่น (Game Addiction Screening Test-GAST: Child and Adolescent Version) ซึ่งพัฒนาโดยสาถาบันจิตเวชเด็กราชนครินทร์ พบว่า เด็กหญิงมีพฤติกรรมการเล่นเกมอยู่ในระดับปกติ (ไม่มีปัญหาในการเล่นเกม) จำนวน ๑๖๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๗ มีพฤติกรรมการเล่นเกมอยู่ในระดับคลั่งไคล้ (เริ่มมีปัญหาในการเล่นเกม) จำนวน ๒๗ คน ติดเป็นร้อยละ ๑๓.๐ และมีพฤติกรรมการเล่นเกมอยู่ในระดับน่าจะติดเกมจำนวน ๑๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๗.๒ ขณะที่เด็กชายมีพฤติกรรมการเล่นเกมอยู่ในระดับปกติจำนวน ๑๔๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๗.๘ มีพฤติกรรมการเล่นเกมอยู่ในระดับคลั่งไคล้จำนวน ๓๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๘ และมีพฤติกรรมการเล่นเกมอยู่ในระดับที่น่าจะติดเกมจำนวน ๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๔.๔ เกมที่นักเรียนหญิงส่วนใหญ่เล่นเป็นเกมที่เล่นในเฟสบุคโดยเล่นผ่านโทรศัพท์มือถือ และเกมที่นักเรียนชายส่วนใหญ่เล่นเป็นเกมออนไลน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อสู้ โดยเล่นผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนตัวและเล่นในร้านเกม ปัญหาที่พบและแนวทางการปรับปรุง 1. การจัดกิจกรรมกลุ่มใหญ่โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากทำให้ไม่สามารถควบคุมการจัดกิจกรรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ได้ทั้งหมด กล่าวคือ ในด้านนักศึกษาที่ไปช่วยจัดกิจกรรม การมีจำนวนนักศึกษามากเกินไปจำเป็นต้องมีการแบ่งหน้าที่การทำงานออกเป็นหลายด้าน ทำให้นักศึกษาขาดโอกาสในการเรียนรู้งานเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมให้ครบทุกด้าน รวมถึงไม่ได้ใช้ทักษะด้านต่างๆอย่างเต็มที่ และในด้านนักเรียนที่เป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมการมีนักเรียนจำนวนมากทำให้การการควบคุมเวลาในการทำกิจกรรมแต่ละกิจกรรมเป็นไปได้ยาก บางกิจกรรมใช้เวลาน้อยกว่าที่ควรจะเป็นเช่นกิจกรรมระดมสมองและนำเสนอความรู้ และบางกิจกรรมนักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้ไม่ทั่วถึงเช่นการตอบคำถามชิงรางวัล แนวทางการปรับปรุง ในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป ควรจัดกลุ่มในการทำกิจกรรมให้เล็กลงทั้งจำนวนนักศึกษาที่ไปช่วยจัดกิจกรรมและจำนวนนักเรียนที่เป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสในการเรียนรู้การจัดกิจกรรมอย่างครอบคลุมและใช้ทักษะให้ครบทุกด้าน และเพื่อให้สามารถควบคุมเวลาในการทำกิจกรรมแต่ละกิจกรรมได้อย่างเหมาะสมและบรรลุตามเป้าหมายของการจัดกิจกรรม อีกทั้งจะทำให้นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้การกำหนดขนาดของกลุ่มขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนที่จะเข้าร่วมกิจกรรม และข้อจำกัดด้านระยะเวลาในการจัดกิจกรรมของทั้งผู้จัดกิจกรรมและผู้เข้าร่วมกิจกรรม 2. นักเรียนบางส่วนไม่ให้ข้อมูลตามความเป็นจริงเพราะกลัวจะมีผลกระทบต่อคะแนนการเรียนและคะแนนพฤติกรรมถึงแม้จะได้รับการชี้แจงจากผู้จัดกิจกรรมแล้ว แนวทางการปรับปรุง ให้ครูในโรงเรียนเป็นผู้ชี้แจงให้นักเรียนทราบว่าการให้ข้อมูลต่างๆไม่มีผลต่อคะแนนทางการเรียน เนื่องจากในด้านผลการเรียนนักเรียนจะมีความเชื่อถือครูในโรงเรียนมการนำความรู้ที่ได้มาบูรณการการเรียนการสอน นักศึกษาได้รับประสบการณ์ในเรื่องการจัดกิจกรรมส่งเสริมและป้องกันสุขภาพจิตในชุมชน การคัดกรองปัญหา และการสร้างสัมพันธภาพซึ่งนักศึกษาสามารถนำความรู้ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมโครงการ ๑. ควรจัดกิจกรรมให้กระชับไม่เสียเวลาในการเรียน ๒. ควรมีรางวัลแจกให้มากกว่านี้ ๓. อยากให้มาจัดกิจกรรมอีกแต่ให้เป็นกิจกรรมอื่นที่หลากหลาย ๔. อยากให้จัดกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการเรียน านด้านการพยาบาลได้ในอนาคต ากกว่าบุคคลภายนอก