ชื่อโครงการวิจัย :: |
ความเครียดและพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์แรกและครรภ์หลัง |
ปีงบประมาณ :: |
2566 |
หัวหน้าโครงการวิจัย :: |
ดร.สร้อย อนุสรณ์ธีรกุล
|
ผู้ร่วมโครงการวิจัย :: |
สุภาพักตร์ หาญกล้า อัญชลี อ้วนแก้ว
|
แหล่งเงินสนับสนุน :: |
ภายใน |
งบประมาณโครงการ :: |
50000 |
ประเภทโครงการวิจัย :: |
พรรณนา |
สาขาวิชา :: |
วิชาการพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ์ |
ผลการดำเนินงาน :: |
ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ |
ผลการตีพิมพ์เผยแพร่ :: |
วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ ปีที่ 46 ฉบับที่ 4 (ตุลาคม-ธันวาคม) 2566 |
เอกสารงานวิจัย :: |
1 ความเครียดและพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์แรกและครรภ์หลัง
|
บทคัดย่อโครงการวิจัย :: |
การวิจัยเชิงพรรณนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความเครียด พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ และ
เปรียบเทียบความเครียดกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์แรกและครรภ์หลัง กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิง
ตั้งครรภ์แรก 88 คน หญิงตั้งครรภ์หลัง 87 คน ที่มาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล อ�ำเภอเมือง
อุดรธานีระหว่างเดือนกันยายน 2565 ถึงเมษายน 2566 เครื่องมือวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบประเมินความเครียด
ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มีมาตรวัด 4 ระดับ ตั้งแต่ไม่เคยถึงเป็นประจ�ำ แบ่งความเครียดออกเป็น
4 ระดับคือ ระดับน้อยจนถึงระดับรุนแรง และ 2) แบบประเมินพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ6 ด้าน ตามกรอบแนวคิด
ของ Pender มีมาตรวัด 5 ระดับ ตั้งแต่ไม่เคยถึงเป็นประจ�ำ แบ่งพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพออกป็น 3 ระดับ คือ
ดีปานกลางและไม่ดีแบบประเมินความเครียดและแบบประเมินพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพโดยรวมมีค่าสัมประสิทธิ์
แอลฟาครอนบาค เท่ากับ .98 และ .95 ตามล�ำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์
เปรียบเทียบด้วยการทดสอบที
ผลการวิจัยพบว่า ครรภ์แรกส่วนใหญ่มีความเครียดในระดับปานกลาง รองลงมาเป็นระดับมากและ
ระดับน้อย (ร้อยละ 53.4, 31.8 และ 12.5 ตามล�ำดับ) ครรภ์หลังส่วนใหญ่มีความเครียดในระดับปานกลาง
รองลงมาเป็นระดับมากและระดับรุนแรง(ร้อยละ 46.0, 42.5 และ 8.1ตามล�ำดับ)ครรภ์แรกส่วนใหญ่มีพฤติกรรม
ส่งเสริมสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับดีรองลงมาเป็นระดับปานกลาง และระดับไม่ดี(ร้อยละ 48.9, 42.0 และ
9.1 ตามล�ำดับ) ครรภ์หลังส่วนใหญ่มีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพอยู่ในระดับปานกลาง รองลงมาเป็นระดับดีและ
ระดับไม่ดี(ร้อยละ 47.1, 36.8 และ 16.1 ตามล�ำดับ)ส่วนพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพรายด้าน ทั้ง 6 ด้าน ทั้งสอง
กลุ่มส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีรองลงมาเป็นระดับปานกลาง ครรภ์หลังมีค่าเฉลี่ยความเครียดมากกว่าครรภ์แรก
อย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ(p<.05, 95% CI-7.831, -.356) ค่าเฉลี่ยพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพโดยรวมและ
รายด้าน ทั้ง 6 ด้าน ครรภ์แรกมากกว่าครรภ์หลังเล็กน้อย แต่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ
สรุปว่าครรภ์หลังมีความเครียดมากกว่าครรภ์แรก สัดส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเครียดในระดับมากถึงระดับรุนแรง
ของทั้งสองกลุ่มค่อนข้างสูง และมากกว่าครึ่งของทั้งสองกลุ่มมีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพในระดับปานกลางถึง
ระดับไม่ดีจึงควรคัดกรองความเครียดและพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของทั้งสองกลุ่มทุกครั้งที่ให้บริการ
รับฝากครรภ์รายที่ผิดปกติควรให้การดูแลช่วยเหลือ ส่งต่อในเพื่อการดูแลที่เหมาะสมต่อไป |
หน่วยคะแนน :: |
0.6 |